การเปรียบเทียบประมาณการกับการใช้จ่ายจริง
เมื่อเราได้มีการจัดทำบัญชีรายจ่ายแยกตามประเภทค่าใช้จ่ายไปแล้ว จะทำให้เราทราบได้ว่ายอดเงินรายจ่ายแต่ละประเภท จากนั้นเราก็จะนำยอดเงินค่าใช้จ่ายที่เราได้จ่ายจริง ไปเปรียบเทียบกับจำนวนเงินที่ได้วางแผนการใช้จ่ายไว้หรือได้ประมาณการไว้ เพื่อหาข้อแตกต่างของยอดเงินสำหรับนำไปใช้ในการปรับปรุงแผนการใช้จ่ายเงิน หรือประมาณการฉบับใหม่ต่อไป ให้มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงให้มากที่สุด
ในการเปรียบเทียบงบประมาณกับการใช้จ่ายจริงนั้นเราสร้างแบบฟอร์มขึ้นมาสำหรับเขียนรายการค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อใช้สำหรับเขียนจำนวนเงินที่เราได้วางแผนการใช้จ่ายไว้ จำนวนเงินที่เราได้มีการใช้จ่ายจริง และจำนวนเงินที่แตกต่างกันระหว่างจำนวนเงินที่ประมาณการไว้ กับจำนวนเงินที่ใช้จ่ายจริง ซึ่งเราควรจะกำหนดแบบฟอร์มของเราให้มีช่องรายการ ช่องรายการ ช่องจ่ายจริง ช่องผลต่างจ่ายมากกว่า และช่องผลต่างจ่ายน้อยกว่า และทำการเขียนหรือบันทึกรายการใช้จ่ายตามที่กำหนดในแต่ละช่องตามแบบฟอร์มที่เราได้สร้างขึ้น เมื่อถึงวันสิ้นเดือน หรือสิ้นงวดระยะเวลาในการวางแผนการใช้จ่ายแล้ว เราจะรวมยอดเงินรวมรายจ่ายแต่ละประเภทตามที่ได้บันทึกไว้ในแบบฟอร์มการเปรียบเทียบนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราทราบได้ว่ารายจ่ายแต่ละประเภทที่เราได้แยกไว้ในงบประมาณ กับการใช้จ่ายจริงนั้นเป็นอย่างไร ประมาณในรายการใดที่มียอดสูงกว่าที่ใช้จ่ายจริงเป็นจำนวนมาก รายการค่าใช้จ่ายใดที่เราประมาณการไว้น้อยเกินไปไม่เพียงพอทำให้มียอดจ่ายจริงสูงกว่าที่เราได้ประมาณการไว้
เราควรทำการเปรียบเทียบงบประมาณกับรายจ่ายจริงทุกครั้งที่มีการรวมสรุปยอดเงิน และนำผลของการเปรียบเทียบที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงและวางการทำงบประมาณในครั้งต่อไป เพื่อที่เราจะได้กำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทให้ได้ใกล้เคียงและตรงกับความเป็นจริงให้มากที่สุด ใครที่ยังไม่เคยทำการเปรียบเทียบเลย ก็ลองทำดูได้ แล้วเราจะพบว่าบางอย่างเราอาจจ่ายมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ความมีสติในการใช้จ่ายจะเกิดขึ้นในตัวเราต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น